ใบความรู้/
ใบงาน/ แบบทดสอบ
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑
เรื่อง พระบรมราโชวาท
แบบทดสอบก่อน-หลังการเรียนรู้
ชื่อ………………………………………….……………เลขที่……..ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
.......................................................
คำสั่ง จงเลือกข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
แล้วกา x ลงในกระดาษคำตอบ
๑.
คำว่า “His Royal
Highness Prince” มีความหมายว่าอย่างไร
ก. เป็นคำนำหน้าพระนามพระราชโอรส ข. เป็นคำนำหน้าพระนามพระราชธิดา
ค.
เป็นคำตามหลังพระนามพระราชโอรส ง. เป็นคำตามหลังพระนามพระราชธิดา
๒.
พระราชโอรสทั้ง ๔ พระองค์ ใครเป็นพระบิดาแห่งกฎหมายไทย
ก. กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ข. กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์
ค. กรมหลวงปราจิณกิติบดี ง. กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช
๓.
พระราชโอรสพระองค์ใดทรงเป็นต้นราชสกุล “กิติยากร” ก
ก. กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ข. กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์
ค. กรมหลวงปราจิณกิติบดี ง. กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช
คำสั่ง อ่านข้อความนี้แล้ว ตอบคำถามข้อ ๔ – ๕
“การซึ่งให้โอกาสและให้ทุนทรัพย์ซึ่งจะได้เล่าเรียนวิชานี้
เป็นทรัพย์มรดกอันประเสริฐกว่าทรัพย์สิน เงินทองอื่น ๆ
ด้วยเป็นของติดตัวอยู่ได้ไม่มีอันตรายที่จะเสื่อมสูญ”
๔.
คำกล่าวนี้มีความหมายตรงกับข้อใด
ก. ความรู้ดูยิ่งล้ำ สินทรัพย์
ข. ความรู้คู่เปรียบด้วย กำลัง
กายเฮย
ค. รู้ธรรมเทียบเท่าผู้ ทรงไตร
ง. ลูกร้ายอย่าพึงปอง มอบทรัพย์ ให้นา
๖.
จากการศึกษาเรื่อง พระบรมราโชวาท นักเรียนคิดว่า
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นบุคคลที่มี ลักษณะเด่นที่สุดในข้อใด
ก. ร่ำรวยและใช้เงินอย่างประหยัด ข.
มองการณ์ไกลและรอบคอบ
ค. มีความรักในเกียรติยศสูง ง.
ให้ค่าเล่าเรียนอย่างเต็มที่เพราะเห็นความสำคัญของการศึกษา
๗.
“พระบรมราโชวาท” มีคุณค่าทางด้านใดเด่นชัดที่สุด ก. คุณค่าด้านเนื้อหา ข.
คุณค่าทางด้านวรรณศิลป์ ค. คุณค่าด้านสังคม ง.
คุณค่าด้านประวัติศาสตร์
๘.ข้อใดใช้คำราชาศัพท์
ไม่ถูกต้อง
ก. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ข. สมาคมแม่บ้านทุกเหล่าทัพ จัดอาหารเลี้ยงเด็กถวายเป็นพระราชกุศล วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
ค.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมาลี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดสมุทรสงคราม
ง. สมเด็จพระสังฆราชเสด็จพระราชดำเนินในพิธีเปิดโครงการพัฒนาเด็กของมูลนิธิเด็กแห่งประเทศไทย
ก. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ข. สมาคมแม่บ้านทุกเหล่าทัพ จัดอาหารเลี้ยงเด็กถวายเป็นพระราชกุศล วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
ค.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมาลี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดสมุทรสงคราม
ง. สมเด็จพระสังฆราชเสด็จพระราชดำเนินในพิธีเปิดโครงการพัฒนาเด็กของมูลนิธิเด็กแห่งประเทศไทย
๙. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ก. ประสูติ ข. พระราชสมภพ ค. สมภพ ง. ทรงเกิด
๑๐. ชีวิตสังขารของมนุษย์ไม่ยั่งยืนยาว
“เหมือนเหล็กเหมือนศิลา” คำที่ขีดเส้นใต้
ใช้วิธี เขียนในข้อใด
ก. ถากถาง ข. เยาะเย้ย
ก. ถากถาง ข. เยาะเย้ย
ง. ตักเตือน ง. เปรียบเทียบ
ใบความรู้
เรื่อง “ การเขียนแผนผังความคิด หรือ ผังมโนภาพ หรือ ผังมโนทัศน์ ”
………………………………………………………………………………………………………
๑. ความจริงที่เกี่ยวกับความคิดของมนุษย์
ความจริงมีอยู่ว่า บุคคลทุกคนสามารถเพิ่มกำลังความสามารถในการคิดของตนเองให้สูงขึ้น เร็วขึ้น กว้างไกลขึ้น และมีคุณภาพยิ่งขึ้นได้ เมื่อมีโอกาสได้เรียนรู้หลักการฝึกฝนความคิดความตั้งใจจริง
๒. องค์ประกอบของความคิด
ความคิดของคนเราประกอบขึ้นจากมโนภาพ คือ ภาพที่ปรากฏภายในใจของแต่ละคน แม้จะมองไม่เห็นแตะต้องไม่ได้ แต่ทุกคนก็ทราบดีภายในใจของตนมีภาพต่าง ๆ ปรากฏอยู่ เช่น ภาพของป่าไม้ รถยนต์ ภูเขา ท้องนา ความอดอยาก ความสนุกสนาน ความกล้าหาญ ความอดทน เป็นต้น
๓. สาเหตุที่คนเราเกิดมีมโนภาพ
การที่คนเราเกิดมีมโนภาพขึ้นนั้น เนื่องมาแต่สาเหตุที่สำคัญ ๒ ประการ ประกอบกัน ได้แก่
๑ ) คนเรามีประสาทสัมผัสทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย ได้สัมผัสกับสิ่งรอบตัว และได้รับรู้สิ่งเหล่านั้นตลอดมา
๒ ) คนเราได้เรียนรู้ภาษาและสามารถใช้คำพูดเรียกสิ่งที่ได้สัมผัสมาอย่างสม่ำเสมอ เราอาจกล่าวได้ว่า มโนภาพของคนเราแยกไม่ออกจากคำพูดในภาษา
๔. ประเภทของมโนภาพ
มโนภาพที่คนเราก็มีเหมือน ๆ กัน เมื่อผ่านพ้นระยะหนึ่งของชีวิตมาแล้ว มี ๒ ประเภท ได้แก่
๑ ) มโนภาพของวัตถุ ได้แก่ สิ่งที่เป็นรูปภาพต่าง ๆ เช่น ปากกา สมุด ดินสอ โต๊ะ เก้าอี้ โรงเรียน นาฬิกา รถจักรยาน ฯ ล ฯ วัตถุเป็นสิ่งที่ทรงตัวอยู่เช่นนั้น ไม่หายไปไหน มีความสม่ำเสมออยู่อย่างนั้น ตลอดระยะเวลาหนึ่ง
๒ )มโนภาพของเหตุการณ์ เช่น การต่อสู้ การแข่งขั้น การเรียน การสอบ ความโกรธ ฟ้าผ่า ฝนตก ไฟดับ ฯลฯ เหตุการณ์นั้นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไป เคลื่อนไหว ไม่ทรงตัวอยู่
๕. ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในใจของเรานั้นมีสภาพอย่างวัตถุหรือเหตุการณ์
ความรู้สึกนั้นมีสภาพไม่ทรงตัวอยู่ตลอดไป มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่น เดี๋ยวรัก เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวเสียใจ ความรู้สึกจึงพออนโลมได้ว่าเป็นเหตุการณ์
๖. มโนภาพที่ใกล้เคียงกัน
มโนภาพที่ใกล้เคียงกันซึ่งอยู่ในใจของเรานั้นมีอยู่มากมายและมโนภาพแต่ละอย่างต่างอยู่อย่างเอกเทศแต่อาจนำมาเชื่อมโยง
เข้าด้วยกันได้
ใบความรู้
เรื่อง “ การเขียนแผนผังความคิด หรือ ผังมโนภาพ หรือ ผังมโนทัศน์ ”
………………………………………………………………………………………………………
๑. ความจริงที่เกี่ยวกับความคิดของมนุษย์
ความจริงมีอยู่ว่า บุคคลทุกคนสามารถเพิ่มกำลังความสามารถในการคิดของตนเองให้สูงขึ้น เร็วขึ้น กว้างไกลขึ้น และมีคุณภาพยิ่งขึ้นได้ เมื่อมีโอกาสได้เรียนรู้หลักการฝึกฝนความคิดความตั้งใจจริง
๒. องค์ประกอบของความคิด
ความคิดของคนเราประกอบขึ้นจากมโนภาพ คือ ภาพที่ปรากฏภายในใจของแต่ละคน แม้จะมองไม่เห็นแตะต้องไม่ได้ แต่ทุกคนก็ทราบดีภายในใจของตนมีภาพต่าง ๆ ปรากฏอยู่ เช่น ภาพของป่าไม้ รถยนต์ ภูเขา ท้องนา ความอดอยาก ความสนุกสนาน ความกล้าหาญ ความอดทน เป็นต้น
๓. สาเหตุที่คนเราเกิดมีมโนภาพ
การที่คนเราเกิดมีมโนภาพขึ้นนั้น เนื่องมาแต่สาเหตุที่สำคัญ ๒ ประการ ประกอบกัน ได้แก่
๑ ) คนเรามีประสาทสัมผัสทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย ได้สัมผัสกับสิ่งรอบตัว และได้รับรู้สิ่งเหล่านั้นตลอดมา
๒ ) คนเราได้เรียนรู้ภาษาและสามารถใช้คำพูดเรียกสิ่งที่ได้สัมผัสมาอย่างสม่ำเสมอ เราอาจกล่าวได้ว่า มโนภาพของคนเราแยกไม่ออกจากคำพูดในภาษา
๔. ประเภทของมโนภาพ
มโนภาพที่คนเราก็มีเหมือน ๆ กัน เมื่อผ่านพ้นระยะหนึ่งของชีวิตมาแล้ว มี ๒ ประเภท ได้แก่
๑ ) มโนภาพของวัตถุ ได้แก่ สิ่งที่เป็นรูปภาพต่าง ๆ เช่น ปากกา สมุด ดินสอ โต๊ะ เก้าอี้ โรงเรียน นาฬิกา รถจักรยาน ฯ ล ฯ วัตถุเป็นสิ่งที่ทรงตัวอยู่เช่นนั้น ไม่หายไปไหน มีความสม่ำเสมออยู่อย่างนั้น ตลอดระยะเวลาหนึ่ง
๒ )มโนภาพของเหตุการณ์ เช่น การต่อสู้ การแข่งขั้น การเรียน การสอบ ความโกรธ ฟ้าผ่า ฝนตก ไฟดับ ฯลฯ เหตุการณ์นั้นเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไป เคลื่อนไหว ไม่ทรงตัวอยู่
๕. ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในใจของเรานั้นมีสภาพอย่างวัตถุหรือเหตุการณ์
ความรู้สึกนั้นมีสภาพไม่ทรงตัวอยู่ตลอดไป มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่น เดี๋ยวรัก เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวเสียใจ ความรู้สึกจึงพออนโลมได้ว่าเป็นเหตุการณ์
๖. มโนภาพที่ใกล้เคียงกัน
มโนภาพที่ใกล้เคียงกันซึ่งอยู่ในใจของเรานั้นมีอยู่มากมายและมโนภาพแต่ละอย่างต่างอยู่อย่างเอกเทศแต่อาจนำมาเชื่อมโยง
เข้าด้วยกันได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น